บอกลาการลดน้ำหนัก:จัดการปัญหาน้ำหนักค้าง
ขณะลดน้ำหนัก เราอาจต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ตัวเลขน้ำหนักไม่ลดลง นี่คือสิ่งที่เรามักจะเรียกกันว่า "น้ำหนักค้าง" การลดน้ำหนักมักเป็นเรื่องที่ยากลำบาก แต่อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยล่าสุดแสดงให้เห็นแล้วว่าการใช้สาร GLP-1 เช่น เซมากลูไทด์สามารถทำให้อาการลดน้ำหนักค้างนี้ล่าช้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนัก
น้ำหนักค้าง:เคล็ดลัพธ์การรักษารูปร่างของตัวเอง
น้ำหนักค้างเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติและเป็นกลไกการป้องกันตนเองที่ร่างกายนำมาใช้เพื่อรักษาความอยู่รอดหลังจากประสบกับการลดน้ำหนักมาระยะหนึ่ง
น้ำหนักค้างไม่ได้เกี่ยวข้องกับปัญหาด้านกำลังใจ แต่มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับเคมีในสมองและการเผาผลาญ สมองจะหลั่งฮอร์โมนความหิวเพื่อต่อต้านการกำจัดแคลอรี่ และการเผาผลาญจะช้าลง ทำให้เผาผลาญแคลอรี่น้อยลง
ระหว่างนี้ แม้ว่าคุณอาจยังคงรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและออกกำลังกาย แต่น้ำหนักของคุณก็จะไม่ลดลงไปกว่านี้หรือกลับมาโยโย่อีกครั้ง
ชะลออาการน้ำหนักค้างของ GLP-1
การศึกษาใหม่มุ่งเน้นไปที่วิธีที่ GLP-1 ส่งผลต่อการมาถึงของอาการน้ำหนักค้างในการลดน้ำหนัก ผลการศึกษาพบว่าประมาณ1ปีหลังจากการลดน้ำหนัก ร่างกายจะเริ่มพยายามชดเชยแคลอรี่ที่สูญเสียไป ทำให้คนที่อดอาหารพบกับสภาวะน้ำหนักค้าง
ดร. Frank Chae ศัลยแพทย์ด้านการลดความอ้วนและผู้อำนวยการทางการแพทย์ของ Sky Ridge Medical ตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งนี้ดูเหมือนจะเป็นกลไกการอยู่รอดของร่างกาย ยิ่งคุณลดน้ำหนักมากเท่าไร ความอยากอาหารของคุณก็จะมากขึ้นเท่านั้น งานวิจัยนี้ตีพิมพ์โดย Kevin Hall นักวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติ ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 แสดงให้เห็นว่าสาร GLP-1 สามารถชะลออาการน้ำหนักค้างนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดร.Chae เน้นย้ำว่าสามารถช่วยให้ผู้ใช้ผ่านขั้นตอนนี้ไปได้จริงๆ ทั้งนี้ผลการวิจัยของ Hall ยังช่วยยืนยันอีกว่าผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะใช้เวลาลดน้ำหนักนานกว่าปกติ1ปีก่อนที่จะมีน้ำหนักถึงจุดสูงสุด เมื่อเทียบกับการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว
กลไกกับผลของการลดน้ำหนัก
①คำแนะนำการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ
นักโภชนาการมืออาชีพแนะนำให้ผู้ใช้ใส่ใจกับโภชนาการของอาหารระหว่างการใช้ ป้องกันภาวะทุพโภชนาการ เพื่อลดน้ำหนักด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืน เช่น คุณควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง โซเดียมสูงและแป้งสูง เช่น ปาท่องโก๋ วิปครีม ไอศกรีม มันฝรั่งทอด อาหารกระป๋องต่างๆ บิสกิตประเภทแป้ง และรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำมากขึ้น อาหารที่มีไขมันและโซเดียมต่ำแต่มีใยอาหารสูง เช่น ปลา น้ำมันมะกอก ธัญพืชไม่ขัดสี และบรอกโคลี
②คำแนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสม
โค้ชด้านสุขภาพแนะนำว่าให้เลือกเสริมความแข็งแรงทางด้านสมรรถภาพทางกายหรือวิ่งจ็อกกิ้งฯลฯมาฝึกให้เหมาะสมเพื่อช่วยให้อาการน้ำหนักค้างดีขึ้น
ผลการวิจัยพบว่าเมื่อเทียบกับใช้ยาอย่างเดียว การออกกำลังกาย 150 นาทีต่อสัปดาห์จะส่งผลให้มีการเผาผลาญไขมันและช่วยลดน้ำหนักได้ดีกว่า
③ยึดมั่นใน GLP-1
ในนิยสาร《Obesity》นักศึกษาปริญาเอก Hall ได้แสดงให้เห็นว่าในขณะลดน้ำหนักการที่น้ำหนักค้างนั้นเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้หมายความว่าประสิทธิของ GLP-1 ลดลง แต่เป็นผลของการปรับตัวของร่างกาย
ทว่าตอนนี้ความต้านทานของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่อต้องเผชิญกับอาการน้ำหนักค้าง การพยายามใช้ยาจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการฝ่าฟันอุปสรรคนี้ เช่นเดียวกับที่ Grunvald กล่าวในนิตยสาร "Health" ว่า "เมื่อคุณหยุดรับประทานยา อาการอยากเก่าๆ ก็อาจกลับมาอีก" Lampe Dominguez ให้กำลังใจผู้ใช้ว่าแม้ว่าน้ำหนักของจะไม่ขึ้นไม่ลง แต่การรับประทาน GLP-1 ต่อไปจะทำให้เกิดผลที่ไม่คาดคิดขึ้น อยู่ที่ความพยายาม